ธุรกิจออนไลน์ที่เป็นออนไลน์ 100% เช่น เพลง หนัง ซอฟแวร์ เกมส์ หนังสือelectronic ที่ดาวโหลดจากผู้ให้บริการโดยตรง เช่น Amazon ลูกค้าจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิต ไม่มีการขนส่งของ เพราะส่งทางอินเตอร์เน็ต กิจกรรมการซื้อขายเป็นออนไลน์ทั้งหมด
เคาเตอร์เซอวิส ก็เป็นออนไลน์เกือบ 100% ไม่เป็นตรงที่ลูกค้าต้องเดินมาหาเรา ถ้าลูกค้าโอนเงินให้เราทาง e-banking ก็เป็นออนไลน์ทั้งหมด ถ้าคุณอยู่ กทม. น่าทำครับ เพราะมีสินค้าและบริการ ที่ร่วมรายการมากกว่า แต่ถ้าเราและลูกทีม ชำระค่าบริการต่างๆ ที่เครื่องของตัวเอง คือเป็นค่าใช้จ่ายของตัวเอง กิจกรรมของกลุ่มดังกล่าว เป็นออนไลน์ทั้งหมด
อย่าง ทีวีออนไลน์ของ www.fukduk.tv ก็เป็นธุรกิจออนไลน์ การให้บริการฟรีทีวีบนเน็ต
ธุรกิจออนไลน์อื่นๆ เอาระบบออนไลน์มาใช้เป็นช่องทางเขาถึงลูกค้า แต่กิจกรรมทั้งหมดไม่เป็นออนไลน์ทั้งหมด เช่น การส่งสินค้า การจ่ายเงินทางเคาเตอร์ธนาคารของลูกค้า
ในอนาคตจะมีธุรกิจออนไลน์ออกมาอีกมากมายแน่นอน เพราะช่วยลดต้นทุนลงไปได้เยอะ อย่างการขายตรงแบบเดิม เราต้องไปหาลูกค้าที่บ้าน บางทีวิ่งอยู่แค่ในเมือง แต่เราอาจจะวิ่งไป 100 กม. โดยไม่รู้ตัวก็ได้ และก็หมดค่าน้ำมันไปเยอะ แต่การพบลูกค้าเองโดยตรง อาจจะเป็นวิธีที่ให้ความเข้าใจ และสร้างสายสัมพันธ์ ที่ดีกว่าวิธีอื่นๆ ครับ
กลุ่มทำขายตรง เขาจะมีเป้าหมายใหญ่ที่รายได้หลักหมื่น หลักแสน เขาพร้อมที่จะลงทุนไปกับต้นทุนที่เกิดขึ้น
แล้วมันจะได้เป็นหมื่นหรือป่าว?
เพื่อนผมที่มาชวนผมทำขายตรงของบริษัท A (ชื่อบริษัทแปลว่า “วิถีทางแห่งอเมริกา”) เธอก็น่าจะได้ประมาณ 3 หมื่น นะครับ เธอบอก ถ้าได้ 5 หมื่น จะลาออกจากการเป็น พนักงานธนาคารเลย
อย่างที่บอกครับ ถ้าขยัน อดทน และเชื่อมั่นในสิ่งที่ตนเองทำ ก็จะสำเร็จได้ครับ เพราะตัวเลขรายได้ที่บอกได้เป็นหลักแสน หลักล้าน เขาก็คงทำได้กันจริงๆ ธุรกิจเขาก็ทำกันมานานเป็น 10 20 ปี มันอยู่ที่ว่า ธุรกิจนั้นเราเหมาะกับมันหรือป่าว มีคนที่เป็นหัวหน้าของทีมนี้ เขาก็ทำมาเป็น 10 กว่าปี ครับ ไม่เคยทำอาชีพอื่นเลย
ถ้าคุณสนใจจะทำธุรกิจออนไลน์ ขายตรง หรือ MLM คุณต้อง ยอมรับในเงื่อนไข และวิธีการของธุรกิจนั้นก่อนครับ
ธุรกิจขายตรงแบบเดิม หลังจากเสียค่าสมัครไปแล้ว เราจะได้รายได้จากยอดการสั่งซื้อสินค้าของลูกค้า และคนในเครือข่ายของเรา
สำหรับธุรกิจออนไลน์ โดยมากจะเอาเงินค่าสมัคร มาจ่ายต่อให้กับการหาสมาชิกใหม่ โดยมากจะเป็นลักษณะนี้หมดแล้ว รวมทั้งบริษัทขายตรงที่เกิดที่หลังด้วย เมื่อก่อนจะเรียกว่า “ค่าหัว” ถ้าคุณไม่ยอมรับในเงื่อนไขของแต่ล่ะบริษัท คุณก็จะทำไปด้วยความไม่สบายใจ ซึ่งก็ไม่ควรจะทำธุรกิจที่คุณยอมรับเงื่อนไขเหล่านั้นไม่ได้ครับ
เคาเตอร์เซอวิส ก็เป็นออนไลน์เกือบ 100% ไม่เป็นตรงที่ลูกค้าต้องเดินมาหาเรา ถ้าลูกค้าโอนเงินให้เราทาง e-banking ก็เป็นออนไลน์ทั้งหมด ถ้าคุณอยู่ กทม. น่าทำครับ เพราะมีสินค้าและบริการ ที่ร่วมรายการมากกว่า แต่ถ้าเราและลูกทีม ชำระค่าบริการต่างๆ ที่เครื่องของตัวเอง คือเป็นค่าใช้จ่ายของตัวเอง กิจกรรมของกลุ่มดังกล่าว เป็นออนไลน์ทั้งหมด
อย่าง ทีวีออนไลน์ของ www.fukduk.tv ก็เป็นธุรกิจออนไลน์ การให้บริการฟรีทีวีบนเน็ต
ธุรกิจออนไลน์อื่นๆ เอาระบบออนไลน์มาใช้เป็นช่องทางเขาถึงลูกค้า แต่กิจกรรมทั้งหมดไม่เป็นออนไลน์ทั้งหมด เช่น การส่งสินค้า การจ่ายเงินทางเคาเตอร์ธนาคารของลูกค้า
ในอนาคตจะมีธุรกิจออนไลน์ออกมาอีกมากมายแน่นอน เพราะช่วยลดต้นทุนลงไปได้เยอะ อย่างการขายตรงแบบเดิม เราต้องไปหาลูกค้าที่บ้าน บางทีวิ่งอยู่แค่ในเมือง แต่เราอาจจะวิ่งไป 100 กม. โดยไม่รู้ตัวก็ได้ และก็หมดค่าน้ำมันไปเยอะ แต่การพบลูกค้าเองโดยตรง อาจจะเป็นวิธีที่ให้ความเข้าใจ และสร้างสายสัมพันธ์ ที่ดีกว่าวิธีอื่นๆ ครับ
กลุ่มทำขายตรง เขาจะมีเป้าหมายใหญ่ที่รายได้หลักหมื่น หลักแสน เขาพร้อมที่จะลงทุนไปกับต้นทุนที่เกิดขึ้น
แล้วมันจะได้เป็นหมื่นหรือป่าว?
เพื่อนผมที่มาชวนผมทำขายตรงของบริษัท A (ชื่อบริษัทแปลว่า “วิถีทางแห่งอเมริกา”) เธอก็น่าจะได้ประมาณ 3 หมื่น นะครับ เธอบอก ถ้าได้ 5 หมื่น จะลาออกจากการเป็น พนักงานธนาคารเลย
อย่างที่บอกครับ ถ้าขยัน อดทน และเชื่อมั่นในสิ่งที่ตนเองทำ ก็จะสำเร็จได้ครับ เพราะตัวเลขรายได้ที่บอกได้เป็นหลักแสน หลักล้าน เขาก็คงทำได้กันจริงๆ ธุรกิจเขาก็ทำกันมานานเป็น 10 20 ปี มันอยู่ที่ว่า ธุรกิจนั้นเราเหมาะกับมันหรือป่าว มีคนที่เป็นหัวหน้าของทีมนี้ เขาก็ทำมาเป็น 10 กว่าปี ครับ ไม่เคยทำอาชีพอื่นเลย
ถ้าคุณสนใจจะทำธุรกิจออนไลน์ ขายตรง หรือ MLM คุณต้อง ยอมรับในเงื่อนไข และวิธีการของธุรกิจนั้นก่อนครับ
ธุรกิจขายตรงแบบเดิม หลังจากเสียค่าสมัครไปแล้ว เราจะได้รายได้จากยอดการสั่งซื้อสินค้าของลูกค้า และคนในเครือข่ายของเรา
สำหรับธุรกิจออนไลน์ โดยมากจะเอาเงินค่าสมัคร มาจ่ายต่อให้กับการหาสมาชิกใหม่ โดยมากจะเป็นลักษณะนี้หมดแล้ว รวมทั้งบริษัทขายตรงที่เกิดที่หลังด้วย เมื่อก่อนจะเรียกว่า “ค่าหัว” ถ้าคุณไม่ยอมรับในเงื่อนไขของแต่ล่ะบริษัท คุณก็จะทำไปด้วยความไม่สบายใจ ซึ่งก็ไม่ควรจะทำธุรกิจที่คุณยอมรับเงื่อนไขเหล่านั้นไม่ได้ครับ
หรืออย่าง ประกันชีวิต (ทำแล้วได้เงินเป็นก้อนดีครับ – ยังไม่เคยเป็นตัวแทนขายครับ) ถ้าเบี้ยประกัน 10,000 คุณก็จะได้ค่าคอม 1,000 บาท) สหกรณ์ออมทรัพย์ ประกันสังคม ก็นำเงินของสมชิกมาเป็นกองกลาง ใครเจ็บป่วย หรือต้องการกู้เงิน ก็เอาเงินกองกลางไปใช้ เป็นเงื่อนไขที่เราพบเจออยู่แล้ว แต่พอมาอยู่กับ MLM มันเลยกังวลๆ อยู่
ลองค้นหาชื่อบริษัทใน Google ดูได้ครับว่าบริษัทไหนจะโกงเรา เช่น “BB จ่ายจริงหรือไม่” อย่างการคลิกป้ายโฆษณา เขาก็จ่ายจริงครับ แต่ถ้าจะให้ได้เงินมากพอ ต้องมีคนสมัครต่อเรา และได้รายได้จากยอดกลุ่ม ถ้าคลิกเองคนเดียวก็สลบก่อนจะได้เงินครับ
คือถ้าบริษัทเอาค่าสมัครของเรามาจ่ายต่อให้ กับเราและลูกทีม เขามีเงินจ่ายอยู่แล้วครับ เพราะเงินเข้ามาจากสมาชิกใหม่ เป็นชั้นๆ ไป
จากที่ยกตัวอย่างหลายๆ ธุรกิจออนไลน์ จากหัวเรื่องคราวก่อน ผมว่าน่าจะ ok ทุกอันนะ อยู่ที่ว่าคุณชอบสินค้า หรือรูปแบบของเจ้าไหน ถ้าค่าสมัครแพง เขาก็น่าจะจ่ายคุณได้ในวงเงินที่สูงตามค่าสมัครนะครับ
ธุรกิจออนไลน์ เหมาะกับ สภาพเศรษฐกิจปัจจุบันนี้ ครับ “ขยับเป็นเสียตังค์ ขับรถเป็นเสียน้ำมัน” ช่วยลดโลกร้อนด้วย เพราะใช้พลังงาน้อยกว่า ต้นทุนต่ำกว่า นี้ผมใช้เน็ตแบบ 50 k นะครับ ไม่ได้ใช้ 1 MB ก็สามารถทำงานได้ครับ ….safe สุดๆ...
จงยอมรับในเงื่อนไขของความสำเร็จ เพราะความสำเร็จต้องมีเงื่อนไข
ยิ่งช้า ยิ่งขาดทุน
ชีวิตแสนสั้น ศิลปะนั้นยืนยาว (ศิลป์ พีระศรี)
(เอามาจาก วิถีทางแห่งอเมริกา เขาจะมีคำขวัญเยอะเลย)
.. ..
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น